แต่งหน้าสวย 4 จุด เพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า
ใบหน้าคนเราจะมีจุดที่มองห็นอย่างเด่นชัดอยู่ 4 จุุดนั้นก็คือ คิ้ว ตา แก้ม และ ปาก และการแต่งหน้าบนจุดดังกล่าวก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นหลักการแต่งหน้าสวยที่สำคัญก็คือ การเลือกเครื่องสำอางที่จะมาแต่งเติมให้ 4 จุดบนใบหน้าของคุณดูโดดเด่นนั้นเองค่ะแต่งหน้าสวย 4 จุด
จุดที่ 1 เปลือกตา
เป็นส่วนของใบหน้าที่สามารถใช้สีสันของอายแชโดว์ได้หลากหลายที่สุด สำหรับสาวไทยส่วนใหญ่ที่มีสีผิวออกเหลืองการเลือกใช้อายแชโดว์ในกลุ่มโทน ร้อนจึงเหมาะสมที่สุดซึ่งสีที่ว่านี้ได้แก่ สีส้ม น้ำตาล ทอง สีเบท เป็นต้น แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถเลือกทาอายแชโดว์กลุ่มสีโทนเย็นไม่ได้เราสามารถทาได้ อยู่แต่ทั้งนี้เพื่อให้สีสันออกมาดูดีและตรงกับสีผิวของสาวไทยมากที่สุด
คุณผู้อ่านควรหัดผสมสีอายแชโดว์ให้ได้สีที่ออกมากลมกลืนและได้สีตามที่เรา ต้องการอย่างเช่น ทาอายแชโดว์สีเบท (โทนร้อน) เป็นสีไฮไลน์ทั่วเปลือกตา จากนั้นตามด้วยสีเทาเงิน (โทนเย็น) ไล่จากขอบตาบนขึ้นไปเหนือตาพับใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มออกดำ (โทนร้อน) ตัดบริเวณหางตาเกลี่ยให้สีกลมกลืมกันซึ่งการแต่งตาลักษณะนี้เรียกว่าการแต่ง ตารูปแบบวี-เชป(V-Shape) ซึ่งจะทำให้ตาดูโตมากขึ้น แต่การแต่งในลักษณะนี้มีความยากกว่าการแต่งตากลมคือต้องไล่ระดับสีให้กลม กลืนกันทั้งสองข้าง
และที่สำคัญสีอายแชโดว์ที่นำมาตัดบริเวณหางตาต้องเกลี่ยให้เนียนไม่มีรอย เส้นสำหรับการแต่งเปลือกตาให้ออกมาสวยงามนั้นนอกเหนือจากการเลือกใช้อายแชโดว์แล้ว การดัดขนตาปัดมาสคาร่าก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญเช่นกันวิธีการดัดขนตาที่ถูกต้อง คุณผู้อ่านต้องเลือกซื้อเลือกใช้ที่ดัดขนตาที่มีแผ่นรองรับเป็นยางหรือซิลิ โคนเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ผู้เขียนขอแนะนำว่าควรเลือกใช้แบบซิลิโคนจะเป็นการดีครับเพราะ เวลาดัดขนตาจะไม่หักงอแต่ที่ตัดขนตาที่ว่านี้จะมีราคาค่อนข้างแพงแต่รับรอง ครับว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน
ขั้นตอนการดัดขนตาที่ถูกต้องถ้าขนตาสั้นควรตัดขนตา 2 ขั้นตอน คือ ชิดขอบตาและปลายขนตาส่วนคนที่มีขนตายาวต้องดัด 3 ขั้นตอน คือ ชิดขอบตา กึ่งกลาง และปลายขนตา การเลือกใช้มาสคาร่าในการปัดขนตาผู้เขียนแนะนำว่าควรเลือกใช้มาสคาร่าสีดำ กันน้ำเวลาใช้ควรปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างก่อนจากนั้นค่อยปัดขนตาบน ถ้ามาสคาร่าเปรอะเลอะขอบตาปล่อยให้แห้งจากนั้นใช้คัตตั้มบัดสะกิดจุดดัง กล่าวออกซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้มาคาร่าจะออกง่ายและไม่เลอะมากยิ่งขึ้น
จุดที่ 2 คือ คิ้ว
การแต่งคิ้วให้สวยเป็นธรรมชาตินั้นถือว่าแต่งได้ยากแต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าคุณผู้อ่านท่านใดที่มีโครงคิ้ว และขนคิ้วที่สวยอยู่แล้วเพียงแค่กันขนคิ้วที่ขึ้นเกะกะให้เป็นระเบียบจาก นั้นใช้มาสคาร่าสีน้ำตาลปัดขนคิ้วเบา ๆ ให้เข้ารูปทรงก็เพียงพอแล้วแต่ถ้ามีเนื้อคิ้วที่น้อย
การแต่งคิ้วให้เป็นธรรมชาติผู้เขียนแนะนำว่าควรใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลไล้เบา ๆ ไม่ควรเขียนคิ้วให้เป็นแท่งหรือเป็นเส้นเพราะแลดูไม่เป็นธรรมชาติและที่ สำคัญความเข้มของคิ้วต้องอยู่บริเวณหางคิ้วและความยาวของคิ้วไม่เกินหางตา
จุดที่ 3 คือ แก้ม
การแต่งแก้ม ณ ปัจจุบันนี้เน้นความระเรื่อแลดูมีเลือดฝาดสุขภาพผิวดีวิธีแต่งเลือกใช้ปลัช ออนสีชมพูหรือสีส้มโดยเริ่มปัดปลัชออนจากบริเวณจอนผมปัดเข้ามาหาจมูกอยู่ตรง บริเวณกึ่งกลางตาตำจากนั้นเกลี่ยสีบลัชออนกลับในแนว ทางเดียวกันให้สีของบลัชออนหายเข้าไปในแนวจอนผมโดยเกลี่ยให้สีกระจายสม่ำ เสมอ ถ้าสีบลัชออนมากเกินไปหรือเข้มเกินไปวิธีแก้ใช้พัฟที่มีแป้งฝุ้นติดอยู่กด ซับเบา ๆ ก็จะช่วยลดสีของบลัชออนลงได้
จุดที่ 4 คือ ปาก
การแต่งปากให้ออกมาสวยงามนั้นลิปสติกถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเสริมให้ เรียวปากสวยน่ามองยิ่งขึ้น สำหรับสีลิปสติกที่จะเลือกมาแต่งแต้มให้ริมฝีปากนั้นก็สามารถเลือกสีได้ตาม ใจชอบ ถ้าเป็นสาวมั่นสีแดงสด น้ำตาลเข้ม สีม่วงอมแดง จะเหมาะกับคุณมากที่สุดแต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองก็เลือกสี ลิปสติกอ่อน ๆ จะเป็นการดีที่สุดหรือจะเลือกใช้ลิปกลอสทาให้ริมฝีปากออกสีระเรื่อแค่นี้ก็ อินเทรนด์สุด ๆ แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องดูโอกาสและสถานที่ด้วย
การแต่งหน้าให้มีสีสันไม่ใช่เพียงแค่นำสีสันของเครื่องสำอางมาละเลงบนใบหน้า ให้เกิดสีสันเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติอย่างที่ผู้เขียนกล่าวมาข้างต้น โดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่แต่งอยุ่ทุกวันนี้มันช่วยสร้างให้ตัวคุณสวยขึ้นหรือ แย่กว่าเติม เพราะฉะนั้นการเรียนรู้การแต่งหน้าที่ถูกวิธีถือว่าเป็นหัวใจหลักในการเสริม ความงามให้คุณสวยมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท. ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น