อายแชโดว์ 120 สี กับการแต่งตาให้คม

กฎทอง! การแต่งตาให้คม

การแต่งตาให้คมสวยนั้นบางครั้งก็คงจะเป็นที่ยุ่งยากสำหรับ คุณ ผู้หญิงหลาย ๆ ท่าน แต่ถ้าหากคุณอยากจะให้ การแต่งตาให้คม นั้นดูเป็นเรื่องที่ง่ายดายและไม่เป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรคกับคุณอีกต่อไปนั้น คุณผู้หญิงจะต้องท่องจำกฎทองในการแต่งตาไว้ให้ดี แล้วการจะทำให้ตาสวยคมหรือสวยแบ๊วก็ไม่เรื่องยากสำหรับคุณอีกเรามาดูเคล็ด ลับกันเลยค่ะ

การแต่งตาให้คม

การใช้อายแชโดว์สองสีเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการสร้างมิติให้ดวงตาดูสวย ซึ้ง แต่ต้องเกลี่ยสีอายแชโดว์ให้เรียบเนียนและกลมกลืนเสมอ วิธีการง่าย ๆ ก็คือ ใช้แปรงขนาดกลางทาสีอ่อนให้ทั่วเปลือกตาจนถึงคิ้ว แล้วใช้สีที่เข้มกว่าทาเฉพาะรอยพับเปลือกตา โดยทาจากหางตาเข้ามายังกึ่งกลางเปลือกตา แล้วใช้แปรงขนาดใหญ่ขนนุ่ม ๆ เกลี่ยทั้งสองสีให้กลมกลืนกันที่สุด สำหรับกลางคืนเพิ่มความเข้มด้วยการใช้แปรงปลายเรียวเล็กและอายแชโดว์สีเข้ม ทาที่ขนตกล่าง และอาจแต้มสีเมทัลลิกที่หัวตาเล็กน้อย เพื่อทำให้ตาดูโตและสดใสขึ้นแถมยังสวยคมอีกต่างหากค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

อายแชโดว์ 120 สี แต่งหน้าแบบใสๆ

วิธีการแต่หน้าแบบใสๆ

ในฤดูหน้าร้อนแบบนี้คุณผู้หญิงคนไหนที่อยากจะแต่งหน้าใสๆ รับลมร้อน ได้อย่างมั่นใจเชิญฟังทางนี้ค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีการแต่งหน้าแบบใสๆ ไม่มันเยิ้มเป็นคราบมาฝากกันค่ะ รับรองว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายจะสวยใสมั่นใจได้ตลอดวันแน่นอนค่ะ

วิธีการแต่งหน้าแบบใสๆ ได้แก่

1. หลังจากล้างหน้าและทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรที่จะใช้รองพื้นค่ะ ควรใช้แป้งพับที่ผสมรองพื้นก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะแต่แนะนำเป็นรองพื้นที่ซับ ความมันได้ดีนะค่ะ แต่หากจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องใช้รองพื้นควรใช้เฉพาะจุดก็พอค่ะ

2. หลังจากทาแป้งพับเสร็จก็หยิบ อายแชโดว์สีเทาเงินไล้ให้ทั่วบริเวณเปลือกตา ตามด้วยอายแชโดว์สีชมพูเริ่มไล้จากหางตามาที่หัวตาค่ะ เน้นช่วงชั้นของเปลือกตาค่ะ จะได้เห็นอายแชโดว์สีชมพูัชัดหน่อยเป็นอันเรียบร้อย แต่หากว่าอยากเพิ่มความเข้มให้กับดวงตาดูเซ็กซี่และโตขึ้น ก็นำอายแชโดว์สีเทาดำมาทาบริเวณหางตาค่ะ จากนั้นก็ใช้อายไลเนอร์กรีดตาเล็กน้อยแต่ตอนกรีดตาให้อายไลเนอร์ชิดกับขนตา หรือจะไม่กรีดตาก็ได้ค่ะ ปัดด้วยมาสคาร่าเล็กน้อยเป็นอันเสร็จค่ะ

3. มาต่อด้วยแก้มให้ดูสีชมพูระเรื่อก็พอค่ะจะได้ดูดีมีเลือดฝาด ต่อจากนั้นก็แต้มลิปสติกด้วยสีชมพู หรือจะแค่ลิปกลอสมัน ๆ ก็ได้ค่ะ

แนะนำ : หากว่าคุณเป็นสาวหน้ามันควรจะพกกระดาษซับ มันติดตัวตลอดเวลาเพื่อกันความเยิ้มบนใบหน้าค่ะ การไม่ใช้รองพื้นจะทำให้ใบหน้าของคุณไม่เป็นคราาบค่ะ

ขอขอบคุณ http://www.n3k.in.th

อายแชโดว์ 120 สี แต่งหน้าเจ้าสาวผิวคล้ำ

แต่งหน้าเจ้าสาวผิวคล้ำ

สำหรับผู้หญิงที่มีผิวค่อนข้างจะเป็นคนผิวคล้ำและหากว่าคุณ กำลังจะก้าวเข้าประตูวิวาห์ แต่ก็ยังคงมีความกังวลใจอยู่ว่า จะดูไม่สวยเมื่อยามแต่งหน้านั้นฟังทางนี้จ้า! วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการแต่งหน้าเจ้าสาวผิวคล้ำมาฝาก โดยเคล็ดลับนี้จัดได้ว่าเป็นเทคนิคการ แต่งหน้าเจ้าสาวผิวคล้ำ ดี ๆ อีกหนึ่งทริกเลยก็ว่าได้ค่ะ

แต่งหน้าเจ้าสาวผิวคล้ำ เริ่มจาก

หลังจากที่รองพื้นแล้วลงครีมแล้วให้ลงอายพาวเดอร์ที่ตาเพื่อให้อายแชโดว์ติดทน หลังจากนั้นให้ลงอายแชโดว์ด้วยสีส้มอมทอง ๆ ทาให้ทั่วบริเวณเปลือกตา และใช้สีน้ำตาลกลาง ๆ อ่อน ๆ เริ่มไล้จากโคนขนตาหรือชิดขนตาและไล้ขึ้นไป จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาลเขียนขอบตาก่อนจากนั้นลงอายไลน์เนอร์สี น้ำตาลทับเพื่อให้ดูนวลขึ้น ใช้อายไลน์เนอร์สีน้ำตาลเขียนลงไปในขอบตาข้างในทั้งบนและล่าง ใช้อายแชโดว์สีน้ำเข้มผสมสีดำเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้ดินสอสีขาวเขียนขอบตาบนล่างตั้งแต่หัวตาไปหางตาและใช้อายแชโดว์ สีขาวซ้ำเพื่อที่จะไม่เป็นสโมกี้อายเกินไป จากนั้นใช้อายไลเนอร์กรีดตาแค่ครึ่งตานิดหน่อย จากนั้นใช้แปรงแต้มสีขาวช่วงหัวตาเพื่อให้หน้าดูหวานขึ้น จากนั้นก็ดัดขนตาสามจังหวะและติดขนตาปลอมเพื่อให้ตาดูโตยิ่งขึ้น ใช้มาสคาร่าปัดขนตาจริงกับขนตาปลอมให้ดูเข้ากันและดัดขนตาเข้ากันอีกครั้ง หนึ่ง จากนั้นจึงจะปัดขนตาล่าง เลือกปัดแก้มด้วยบรัชออนสีพีชปัดที่พวงแก้มเพราะช่วยในการขับสีผิวของสาวผิว คล่ำ จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบปากสีออกชมพูทาทั้งปากเพราะจะทำให้ลิปสติกติดทนนาน จากนั้นก็ทาลิปสติกสีชมพูทับอีกครั้งและหลังจากนี้ก็ค่อยเก็บโครงหน้าอีก ครั้งแล้วแต่รูปหน้า เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับสาวเจ้าสาวผิวคล่ำค่ะ

ขอขอบคุณ http://www.n3k.in.th

อายแชโดว์ 120 สี วิธีแต่งตาแบบสโมกกี้อาย

อายแชโดว์ 120 สี วิธีแต่งตาแบบสโมกกี้อาย

วิธีแต่งตาแบบสโมกกี้อายนั้นไม่เคยที่จะหนี้หายไปจากทุก ยุค ทุกสมัยกันเลยจริง ๆ และยิ่งปัจจุบัน วิธีแต่งตาแบบสโมกกี้อาย นั้นยิ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นเรียกได้ว่า ใครไม่แต่งตาแบบนี้เป็นอันว่าตกยุคไปเลยก็ว่าได้ และถ้าหากว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายยังไม่ที่จะต้องตกยุคนี้แล้วล่ะก็ เรามาดูวิธีแต่งตาแบบสโมกกี้อายไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

5 วิธีแต่งตาแบบสโมกกี้อาย

1. จุ่มปลายพู่กันที่เปียกหมาด ๆ ลงในอายแชโดว์สีเข้มสุด แล้ววาดเป็นเส้นตามแนวขนตาบน

2. ก่อนที่อายแชโดว์จะแห้งก็มองขึ้นข้างบนแล้วกะพริบตา วิธีนี้จะทำให้เกิดคราบสีบนเปลือกตาซึ่งคุณควรทาอายแชโดว์สีกลาง ๆ ให้ถึงแนวนี้

3. ทาอายแชโดว์สีอ่อนสุดเหนือรอยพับบนเปลือกตาและเรื่อยไปจนถึงโหนกคิ้ว

4. ทาอายแชโดว์สีเหลือบมุกลงบนบริเวณหัวตาเพื่อทำให้ดวงตาดูโตขึ้น

5. จบด้วยการใช้ดินสอเขียนตาวาดขอบตาแล้วใช้นิ้วหรือก้านสำลีเกลี่ยให้ดูนุ่มนวน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

อายแชโดว์120 สี เติมสีสันด้วย "เทคนิคการแต่งหน้าให้สวย"

เติมสีสันด้วย "เทคนิคการแต่งหน้าให้สวย"

เมื่อชีวิตสุดแสนจะเหี่ยวเฉาในการแต่งหน้าลองหันมาดู เทคนิคการแต่งหน้าให้สวยด้วยสีสันใหม่ ๆ แล้วชีวิตของคุณจะดูสดใสและไม่จำเจอีกต่อไป ด้วย เทคนิคการแต่งหน้าให้สวย ต่อไปนี้ เชื่อได้เลยค่ะว่าคุณจะสนุกและไม่คิดว่าการแต่งหน้าคือเรื่องที่น่าเบื่ออีก ต่อไป นั้นไม่รอช้ามาเริ่มกันเลยค่ะ

เทคนิคการแต่งหน้าให้สวย

Purple

เลือกใช้สีม่วงพาสเทลอ่อน ๆ ระบายบนเปลือกตาควบคู่กับการใช้เฉดสีม่วงข้น ๆ อย่างสีม่วงของผลแบล็กเบอร์รี่ สีม่วงพลัมเฉดเข้ม ๆ ลงบนริมฝีปากเพื่อลุคที่ดูบาลานซ์ของสีสันแต่ไม่กลืนจมหาย และอย่าลืมตัดขอบตาด้วยอายไลเนอร์สีดำชิดแนวขนตา

สำหรับคุณผู้หญิงที่มีปัญหาการใช้อายแชโดว์สีม่วง เพราะรู้สึกว่าดวงตาดูช้ำเหมือนเพิ่งโดนตบ สาเหตุเป็นเพราะคุณใช้อายแชโดว์เฉดสีม่วงที่ผสมสีโทนร้อนจำพวกสีม่วงอมแดง และสีม่วงอมชมพูจัด ๆ ควรเปลี่ยนมาใช้อายแชโดว์เฉดสีม่วงที่ผสมด้วยสีโทนเย็น เช่น ม่วงอมฟ้า ม่วงน้ำตาลหรือม่วงอมเทาแทน และถ้าคุณอยากทาลิปสติกม่วงเข้ม ๆ แต่กลัวว่าจะดูหมองเกินไปหลังจากทาลิปสติกสีม่วงแล้วแนะนำให้เติมความวาวสด ใสด้วยลิปกลอสสีทองทับอีกครั้ง


Pink

สีชมพูเหมาะกับทุกโทนสีผิวแต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกเฉดสีชมพูที่ ใช่สำหรับตัวคุณเองด้วย สีชมพูเป็นตัวแทนของความสดใสของวัยแรกแย้มจึงช่วยขับผิววัยสาวให้ดูเปล่ง ปลั่งสดใสสมวัย สามารถแต่งไล่ได้ตั้งแต่เปลือกตา แก้มและริมฝีปาก แต่สำหรับผิวที่มีแนวโน้มดูแดงอยู่แล้วควรเลี่ยงการใช้สีชมพู เพราะจะเน้นให้เห็นความแดงบนผิวหน้าคุณชัดขึ้น และถ้าคุณผู้หญิงคนไหนอยากจะแต่งตาด้วยโทนสีชมพูแนะนำให้เลือกอายแชโดว์ที่ มีเนื้อบางใส เพื่อขับดวงตาคุณให้ดูส่องประกายไม่หนาหนัก ซึ่งจะดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากกว่า


Peach

ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่มักยึดติดกับการแต่งหน้าโทนหวาน ๆ ของสีชมพู โดยอาจลืมคำนึงถึงความเป็นจริงว่า โทนสีผิวที่แท้จริงของคุณออกจะอมเหลืองมากกว่า ลองเลือกใช้บลัชออนสีส้มประการัง สีแอปริคอทและสีพีช สลับใช้กับบลัชออนสีชมพูดู

แต่ปัญหาของสาวไทยที่มักกังวลไม่มั่นใจกับการใช้บลัชออนเฉดสีอมส้มเพราะเคย ถูกทักว่าผิวหน้าดูซีดจืดเกินไป คุณวรากร ส่องจ้า Professional Makeup Artist จากเครื่องสำอาง Shu Uemura บอกว่าปัญหานี้เกิดจากสาเหตุการเลือกสีบลัชออนอมส้มมากเกินไป ถ้าคุณมีผิวขาวอมชมพูและเหลืองอมชมพูควรเลือกปัดบลัชออนสีส้มอมชมพูหน่อย ๆ เพื่อคงความระเรื่อของผิวสุขภาพดีเอาไว้

Brown

เลี่ยงการใช้สีน้ำตาลทั่วทั้งใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวของคุณดูแห้งแข็งกระด้างเหมือนก้อนดินหยาบ ๆ เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเมคอัพสีน้ำตาลชุดพาเลตต์ของคุณด้วยโทนสีอบอุ่น ของสีทองและสีทองแดง แนะนำให้ผสมผสานความต่างของ Texture เพื่อลุคที่ชวนมองมากยิ่งขึ้น เช่น ถ้าคุณเลือกบลัชออนสีน้ำตาลเนื้อแมทแล้วสีตาของคุณควรไม่ใช่เนื้อแมทด้าน ๆ อาจเลือกเป็นอายแชโดว์เนื้อครีมสีทองหรือเนื้อชิมเมอร์แทน สำหรับสาวผิวเหลืองไม่แนะนำให้ใช้เฉดสีน้ำตาลพาสเทลเพราะจะทำให้โทนอารมณ์ ของใบหน้าดูซีดไม่สดใส


Gold

สีทองยังคงความคลาสสิกและสร้างเสน่ห์ให้คุณผู้หญิงดูโก้และหรูหราได้เสมอมา โดยเฉพาะสาวผิวแทนและสาวผิวคล้ำสีทองจะช่วยขับสีผิวของคุณให้ดูโกลว์ส่อง ประกายและยังใช้เป็นไฮไลท์เพิ่มความสว่างเรืองรองตรงโหนกแก้มและโหนกคิ้วได้ อีกด้วย

โดยการเลือกใช้ไฮไลท์เนื้อครีมสีทองแต้มตรงแนวโหนกแก้มเรียงขึ้น 3 จุด จากนั้นค่อย ๆ แตะ ๆ เนื้อครีมให้กลมกลืนเนียบเรียบไปกับผิวและอย่าลืมแต้มนิด ๆ ตรงบริเวณโหนกคิ้วด้วยแล้วตามด้วยการลงบรอนเซอร์บาง ๆ ตรงหน้าแก้ม สำหรับสาวผิวสองสีแต่อยากได้ลุคผิวแทน เมคอัพสีทองจะช่วยเปลี่ยนสีผิวของคุณให้ดูคล้ายผิวสีน้ำผึ้งสุขภาพดีโดยไม่ จำเป็นต้องใช้บรอนเซอร์ช่วยเลย


White

เรามักคิดว่าสีขาวคือสีที่ไม่ให้สีและเมื่อสีขาวดูจะไร้ความหมายแต่ทำไมสี ขาวจึงต้องมีประดับไว้ในชุดพาเลตต์เครื่องสำอางเสมอล่ะ คุณพรพิชิต ขุมเงิน (พี) Senior Artist จากเครื่องสำอาง M.A.C อธิบายให้เราฟังว่า สีขาวที่มักจะมาพร้อมในชุดตลับเมคอัพนั้น จะทำหน้าที่เป็นสีผสมเพื่อลดระดับความเข้มของเฉดสีอื่น ๆ ให้ดูอ่อนลง "สีทุกสีที่ผสมกับสีขาวจะเปลี่ยนเป็นโทนสีพาสเทลคือจะมีสีที่อ่อนลงโดยวิธี การผสมนั้นสามารถผสมในพาเลตต์ได้เลยหรือจะเลือกผสมบนเปลือกตาก็ได้"

ถ้าเลือกผสมในพาเลตต์ คุณพีฝากย้ำคุณผู้หญิงว่า ห้ามแตะสีเข้มก่อนสีขาวเด็ดขาดเพราะจะทำให้สีขาวเลอะ ควรแตะสีขาวก่อนและจึงค่อยเปลี่ยนมาแตะผสมกับสีอื่น ๆ แต่ถ้าอยากผสมลงบนเปลือกตาเลย แนะนำให้ลงสีขาวเป็นเบสก่อน เพื่อทำให้ดวงตาดูสว่างขึ้น "ก็เหมือนกับการลงสีบน canvas เมื่อพื้นผิวเป็นสีขาวเรียบเนียนแล้ว คราวนี้พอลงสีอื่นไปปุ๊ป สีนั้นก็จะถูกขับให้ดูชัดขึ้น"

ประโยชน์ของสีขาวไม่ได้มีเพียงเท่านี้แต่คุณพีบอกว่า คุณสมบัติของสีขาวยังใช้เป็นไฮไลท์ได้ด้วย "สีที่อ่อนคือสีไฮไลท์ หน้าที่ของสีไฮไลท์คือใช้ลงตรงบริเวณที่เราต้องการดึงให้นูนขึ้น เช่น จมูก บริเวณหัวตา บริเวณใต้ท้องคิ้วหรือถ้าคางสั้นก็สามารถปัดเบา ๆ ตรงบริเวณปลายคางได้ เพื่อแก้ไขปัญหาหน้ากลม คางสั้น หน้าก็จะดูยาวขึ้น เพราะสีขาวและสีอ่อนจะช่วยให้ดูกว้างขึ้น"

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.n3k.in.th

อายแชโดว์ 120 สี เพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า

แต่งหน้าสวย 4 จุด เพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า

ใบหน้าคนเราจะมีจุดที่มองห็นอย่างเด่นชัดอยู่ 4 จุุดนั้นก็คือ คิ้ว ตา แก้ม และ ปาก และการแต่งหน้าบนจุดดังกล่าวก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นหลักการแต่งหน้าสวยที่สำคัญก็คือ การเลือกเครื่องสำอางที่จะมาแต่งเติมให้ 4 จุดบนใบหน้าของคุณดูโดดเด่นนั้นเองค่ะ

แต่งหน้าสวย 4 จุด

จุดที่ 1 เปลือกตา

เป็นส่วนของใบหน้าที่สามารถใช้สีสันของอายแชโดว์ได้หลากหลายที่สุด สำหรับสาวไทยส่วนใหญ่ที่มีสีผิวออกเหลืองการเลือกใช้อายแชโดว์ในกลุ่มโทน ร้อนจึงเหมาะสมที่สุดซึ่งสีที่ว่านี้ได้แก่ สีส้ม น้ำตาล ทอง สีเบท เป็นต้น แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถเลือกทาอายแชโดว์กลุ่มสีโทนเย็นไม่ได้เราสามารถทาได้ อยู่แต่ทั้งนี้เพื่อให้สีสันออกมาดูดีและตรงกับสีผิวของสาวไทยมากที่สุด

คุณผู้อ่านควรหัดผสมสีอายแชโดว์ให้ได้สีที่ออกมากลมกลืนและได้สีตามที่เรา ต้องการอย่างเช่น ทาอายแชโดว์สีเบท (โทนร้อน) เป็นสีไฮไลน์ทั่วเปลือกตา จากนั้นตามด้วยสีเทาเงิน (โทนเย็น) ไล่จากขอบตาบนขึ้นไปเหนือตาพับใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มออกดำ (โทนร้อน) ตัดบริเวณหางตาเกลี่ยให้สีกลมกลืมกันซึ่งการแต่งตาลักษณะนี้เรียกว่าการแต่ง ตารูปแบบวี-เชป(V-Shape) ซึ่งจะทำให้ตาดูโตมากขึ้น แต่การแต่งในลักษณะนี้มีความยากกว่าการแต่งตากลมคือต้องไล่ระดับสีให้กลม กลืนกันทั้งสองข้าง

และที่สำคัญสีอายแชโดว์ที่นำมาตัดบริเวณหางตาต้องเกลี่ยให้เนียนไม่มีรอย เส้นสำหรับการแต่งเปลือกตาให้ออกมาสวยงามนั้นนอกเหนือจากการเลือกใช้อายแชโดว์แล้ว การดัดขนตาปัดมาสคาร่าก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญเช่นกันวิธีการดัดขนตาที่ถูกต้อง คุณผู้อ่านต้องเลือกซื้อเลือกใช้ที่ดัดขนตาที่มีแผ่นรองรับเป็นยางหรือซิลิ โคนเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ผู้เขียนขอแนะนำว่าควรเลือกใช้แบบซิลิโคนจะเป็นการดีครับเพราะ เวลาดัดขนตาจะไม่หักงอแต่ที่ตัดขนตาที่ว่านี้จะมีราคาค่อนข้างแพงแต่รับรอง ครับว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน

ขั้นตอนการดัดขนตาที่ถูกต้องถ้าขนตาสั้นควรตัดขนตา 2 ขั้นตอน คือ ชิดขอบตาและปลายขนตาส่วนคนที่มีขนตายาวต้องดัด 3 ขั้นตอน คือ ชิดขอบตา กึ่งกลาง และปลายขนตา การเลือกใช้มาสคาร่าในการปัดขนตาผู้เขียนแนะนำว่าควรเลือกใช้มาสคาร่าสีดำ กันน้ำเวลาใช้ควรปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างก่อนจากนั้นค่อยปัดขนตาบน ถ้ามาสคาร่าเปรอะเลอะขอบตาปล่อยให้แห้งจากนั้นใช้คัตตั้มบัดสะกิดจุดดัง กล่าวออกซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้มาคาร่าจะออกง่ายและไม่เลอะมากยิ่งขึ้น

จุดที่ 2 คือ คิ้ว

การแต่งคิ้วให้สวยเป็นธรรมชาตินั้นถือว่าแต่งได้ยากแต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าคุณผู้อ่านท่านใดที่มีโครงคิ้ว และขนคิ้วที่สวยอยู่แล้วเพียงแค่กันขนคิ้วที่ขึ้นเกะกะให้เป็นระเบียบจาก นั้นใช้มาสคาร่าสีน้ำตาลปัดขนคิ้วเบา ๆ ให้เข้ารูปทรงก็เพียงพอแล้วแต่ถ้ามีเนื้อคิ้วที่น้อย

การแต่งคิ้วให้เป็นธรรมชาติผู้เขียนแนะนำว่าควรใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลไล้เบา ๆ ไม่ควรเขียนคิ้วให้เป็นแท่งหรือเป็นเส้นเพราะแลดูไม่เป็นธรรมชาติและที่ สำคัญความเข้มของคิ้วต้องอยู่บริเวณหางคิ้วและความยาวของคิ้วไม่เกินหางตา

จุดที่ 3 คือ แก้ม

การแต่งแก้ม ณ ปัจจุบันนี้เน้นความระเรื่อแลดูมีเลือดฝาดสุขภาพผิวดีวิธีแต่งเลือกใช้ปลัช ออนสีชมพูหรือสีส้มโดยเริ่มปัดปลัชออนจากบริเวณจอนผมปัดเข้ามาหาจมูกอยู่ตรง บริเวณกึ่งกลางตาตำจากนั้นเกลี่ยสีบลัชออนกลับในแนว ทางเดียวกันให้สีของบลัชออนหายเข้าไปในแนวจอนผมโดยเกลี่ยให้สีกระจายสม่ำ เสมอ ถ้าสีบลัชออนมากเกินไปหรือเข้มเกินไปวิธีแก้ใช้พัฟที่มีแป้งฝุ้นติดอยู่กด ซับเบา ๆ ก็จะช่วยลดสีของบลัชออนลงได้


จุดที่ 4 คือ ปาก

การแต่งปากให้ออกมาสวยงามนั้นลิปสติกถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเสริมให้ เรียวปากสวยน่ามองยิ่งขึ้น สำหรับสีลิปสติกที่จะเลือกมาแต่งแต้มให้ริมฝีปากนั้นก็สามารถเลือกสีได้ตาม ใจชอบ ถ้าเป็นสาวมั่นสีแดงสด น้ำตาลเข้ม สีม่วงอมแดง จะเหมาะกับคุณมากที่สุดแต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองก็เลือกสี ลิปสติกอ่อน ๆ จะเป็นการดีที่สุดหรือจะเลือกใช้ลิปกลอสทาให้ริมฝีปากออกสีระเรื่อแค่นี้ก็ อินเทรนด์สุด ๆ แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องดูโอกาสและสถานที่ด้วย

การแต่งหน้าให้มีสีสันไม่ใช่เพียงแค่นำสีสันของเครื่องสำอางมาละเลงบนใบหน้า ให้เกิดสีสันเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติอย่างที่ผู้เขียนกล่าวมาข้างต้น โดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่แต่งอยุ่ทุกวันนี้มันช่วยสร้างให้ตัวคุณสวยขึ้นหรือ แย่กว่าเติม เพราะฉะนั้นการเรียนรู้การแต่งหน้าที่ถูกวิธีถือว่าเป็นหัวใจหลักในการเสริม ความงามให้คุณสวยมากยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท. ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

อายแชโดว์ 120 สี มิกซ์แอนด์แมทช์ "ดวงตา" โทนสีฟ้าครามทอง

อายแชโดว์ 120 สี มิกซ์แอนด์แมทช์ "ดวงตา" โทนสีฟ้าครามทอง

ฉีกกฏการแต่งหน้าแบบสโมกกี้อายเดิม ๆ ที่ผู้หญิงหลายคนเริ่มจะเบื่อกันเข้าแล้ว มาเปลี่ยนเป็นการเมคอัพแบบใหม่ที่เน้นสีสันบนเปลือกตาด้วยการมิกซ์แอนด์แมทช์เป็นหลัก ในรูปแบบของโทนสีฟ้าครามและทอง มาฝากผู้หญิงยุคใหม่อย่างเรา ๆ กันค่ะ

มิกซ์แอนด์แมทช์ เริ่มจาก

กรีดอายไลเนอร์เนื้อครีมสีดำสนิทให้ชิดโคนขนตาที่สุด จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำเงินเข้มเขียนบริเวณเปลือกตาบนและหางตาก่อน ไล้อายแชโดว์เมแทลลิกสีน้ำเงินทับเส้นดินสอสีน้ำเงินให้ดูฟุ้ง ๆ แล้วเน้นหัวตาและเหนือชั้นพับตาด้วยอายแชโดว์สีทอง

แต่ ถ้าอยากให้ใบหน้าดูสว่างสดใสต้องไล้อายแชโดว์สีทองให้ทั่วเปลือกตาบาง ๆ แล้วเขียนขอบตาด้วยดินสอสีน้ำเงินเข้ม จากนั้นไล้อายแชโดว์สีครามทับบริเวณชั้นพับตาเบา ๆ ก่อนปัดมาสคาร่าสีทองทับ 2-3 ชั้น

เทรนด์สโมกกี้อายแบบใหม่นี้ ควรเน้นให้ผิวหน้าสดใสเทคนิคง่าย ๆ คือ ใช้แป้งเนื้อทองประกายระยิบระยับไล้บริเวณกรอบหน้าที่จะสัมผัสแสง เช่น สันจมูก โหนกคิ้ว และหน้าผาก แถมเทคนิคแต่งเรียวปากให้ดูเย้ายวนอีกนิดด้วยการใช้นิ้วแต้มลิปสติกสีแดงที่ กลางริมฝีปาก แล้วค่อย ๆ เกลี่ยออกไปทางมุมปากก่อนใช้ลิปกลอสสีทองแตะกึ่งกลางริมฝีปากอีกเล็กน้อย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก สุดสัปดาห์ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

อายแชโดว์ 120 สี สะกดใจชาย ด้วย "ดวงตา"

อายแชโดว์ 120 สี สะกดใจชาย ด้วย "ดวงตา"

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้น หากจะสะกดใจชายก็ต้องดวงตานี่แหละค่ะ ที่จะทำให้ชวนหลงใหลฉะนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลายไม่ควรพลาด แต่ก่อนอื่นคุณต้องพิจารณาดวงตาของคุณให้ดีซะก่อน เมื่อพิจารณาเสร็จมาทำตามขั้นตอนต่อไปนี้กันเลยค่ะ

สะกดใจชาย ด้วย "ดวงตา" เริ่มจาก

อุปกรณ์

ดินสอเขียนคิ้ว

ชุดแปรงใช้แต่งดวงตา เช่น พูกันปัดคิ้ว พู่กันทาอายแชโดว์

ดินสอเขียนขอบตา

อายไลเนอร์

คอตตอนบัด

ที่ดัดขนตา

ขั้นตอนก่อนสวย



ถ้าคุณมีดวงตาเล็ก

ให้ใช้สีอายแชโดว์สีเข้มไล้บริเวณหางตาแล้วค่อยเบจสีให้อ่อนลงไปทางหัวตา แล้วใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำเขียนให้ชิดโคนขนตาให้มากที่สุด โดยเริ่มเขียนจากบริเวณหางตามาจรดหัวตา หากเส้นดินสอยังเลอะไม่สม่ำเสมอให้คุณใช้คอตตอนบัดเกลี่ยให้เนียนแล้วใช้ พู่กันปลายเล็กทาอายแชโดว์สีเดียวกับดินสอทาทับลงไปบนเส้นดินสออีกครั้ง เพื่อลดความแข็งกระด้างของเส้นดินสอส่วนขอบตาล่างใช้ดินสอเขียนขอบตาที่มีสี อ่อนกว่าดินสอเขียนขอบตาบน โดยเริ่มเขียนตั้งแต่หางตา (ให้ชิดกับหางตาบน) มาในระยะ 2/3 ของตาแล้วหยุดพักไว้ แล้วใช้พู่กันปลายแหลมเล็กทาสีอายแชโดว์สีเดียวกับดินสอเขียนขอบตาทาทับเส้น ดินสอที่เขียไว้อีกครั้ง

ใช้ที่ดัดขนตาตัดขนตา

เริ่มตั้งแต่โคนขนตา กลางขนตา และปลายขนตา แล้วใช้มาสคาร่าสีดำหรือน้ำตาล ถ้าปัดขนตาบนให้คุณมองต่ำๆแล้วจับมาสคาร่าเป็นแนวนอนปัดจากโคนขนตาด้านล่าง ไปจนถึงปลายขนตา ปัดซ้ำไปซ้ำมาจนขนตาคุณดูยาว ส่วนขนตาล่างให้คุณตั้งมาสคาร่าขึ้น แล้วปัดมาสคาร่าทั่วทุกเส้นขนตา หากมาสคาร่าจับกันเป็นก้อนใช้แปรงปัดคิ้วที่มีลักษณะคล้ายหวีหวีเส้นขนตาให้ แยกออกจากกัน

ไม่ควรเขียนเส้นอายไลเนอร์เส้นหน้าและใหญ่สำหรับคนตาเล็ก

เพราะจะยิ่งเน้นดวงตาคุณให้ดูเล็กมายิ่งขึ้น

ถ้าคุณมีผิวมัน

ควรใช้มาสคาร่าและอายไลเนอร์ชนิดกันน้ำไม่ควรใช้อายแชโดว์ชนิดครีมเพราะจะทำให้ดวงตาคุณเลอะเทอะ

ถ้าคุณเป็นสาวตากลมโต

ควรใช้สีอายแชโดว์สีกลางและสีอ่อนอย่าเน้นสีอายแชโดว์ให้ดำเข้มมากเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้ดวงตาคุณดูดุ

สำหรับสาวตาโต

เมื่อทาสีอายแชโดว์เนียนสวยที่เปลือกตาแล้วคุณอาจใช้ดินสอเขียนขอบตาสีเข้ม เขียนเส้นบาง ๆ แล้วปัดมาสคาร่าเลยก็ได้ แต่ถ้าอยากใช้อายไลเนอร์ควรเขียนเส้นให้เล็กและบางมากที่สุด

สำหรับสาวตาห่าง

ควรพยายามทาสีอายแชโดว์สีเข้มให้ค่อนมาทางหัวตาและพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สี อ่อนบริเวณหัวตาเพราะจะทำให้ตาคุณดูห่างมากยิ่งขึ้น

ถ้าคุณมีดวงตาที่ชิดกันมาก

ควรเน้นอายแชโดว์สีอ่อนมาก ๆ บริเวณหัวตาแล้วเน้นสีเข้ม ๆ ที่หางตา ข้อห้ามสำหรับสาวตาชิดไม่ควรเน้นการแรเงาบริเวณข้างจมูกให้เด่นเพราะจะยิ่ง ทำให้ตาดูชิด

การเขียนคิ้ว

ถ้าคุณมีคิ้วที่สวยได้รูปอยู่แล้วคุณเพียงแต่ใช้พู่กันปัดคิ้วทาสีอายแชโดว์ สีน้ำตาลหรือใกล้เคียงกับสีคิ้วคุณปัดเบา ๆ ให้ทั่วขนคิ้วหรือถ้าต้องการออกงานกลางคืนก็ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีอ่อนกว่า คิ้วเขียนบริเวณฐานล่างของคิ้วไปตามโครงของคิ้วจริง แล้วใช้พู่กันปัดคิ้วทาสีอายแชโดว์สีใกล้เคียงกับดินสอเขียนคิ้วระบายทับให้ ทั่วขนคิ้วอีกครั้งคุณจะมีคิ้วที่สวยคมได้รูปแต่ไม่แข็งกระด้าง

ถ้าคุณมีขนคิ้วที่หนาไม่ได้รูป

ควรกันคิ้วให้ได้รูปโดยกันบริเวณขนคิ้วด้านล่างสุดก่อนจากด้านหางคิ้วมาสู่ บริเวณหัวคิ้ว ถ้ายังรกอยู่ให้ค่อยๆกันแนวขนคิ้วให้สูงขึ้นมาอีกนิดทำซ้ำเหมือนเดิมจนขน คิ้วคุณโก่งสวยสมใจ

ถ้าขนคิ้วไม่เป็นระเบียบ

หลังจากเขียนคิ้วเสร็จแล้วใช้มาสคาร่าเจลใส ปัดทับขึ้นไปอีกครั้งจะทำให้ขนคิ้วดูมีระเบียบสวยงาม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.n3k.in.th   อสมท. ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต